- Glucagon-like peptide-1 receptor agonists (GLP-1 RAs) เช่น Semaglutide เป็นยาที่พัฒนาขึ้นจากการทำงานของ GLP-1 ซึ่งเป็นฮอร์โมนธรรมชาติที่ผลิตในลำไส้หลังการรับประทานอาหาร โดยฮอร์โมน GLP-1 ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดโดยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อน และยับยั้งการหลั่งกลูคากอน (ฮอร์โมนที่เพิ่มน้ำตาลในเลือด) นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกอิ่ม ช่วยลดการบริโภคอาหาร
- GLP-1 RAs ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีปัญหาในการควบคุมน้ำตาลในเลือด หลังจากที่ได้มีการศึกษาเกี่ยวกับ GLP-1 ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมการตอบสนองของอินซูลิน นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่า GLP-1 RAs เช่น Semaglutide มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และยังมีศักยภาพในการควบคุมน้ำหนัก
- Semaglutide ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ในปี 2017 สำหรับการรักษาโรคเบาหวานประเภทที่ 2 และต่อมาในปี 2021 ได้รับการอนุมัติให้ใช้เป็นยาลดน้ำหนักสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะอ้วน (Obesity) ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า Semaglutide ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีผลต่อความอยากอาหารและการเผาผลาญพลังงาน
สิ่งที่ควรจำแบบเบสิกๆเลยสำหรับ Glucagon-like peptide-1 receptor agonists หรือ Semaglutide
- Semaglutide คือ “ชื่อเรียกแบบย่อๆ”
- Glucagon-like peptide-1 receptor agonists คือ “ชื่อของกลุ่มยาหรือคลาสของยา”
กลไกการทำงานของ (Semaglutide) Glucagon-like peptide-1 receptor agonists สามารถทำอะไรได้บ้าง?
-กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน (Insulin Secretion): Semaglutide ช่วยกระตุ้นตับอ่อนให้ผลิตอินซูลินมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-ยับยั้งการหลั่งกลูคากอน (Glucagon Inhibition): Semaglutide ลดการผลิตกลูคากอนจากตับ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นจึงช่วยป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป
-ชะลอการลำเลียงอาหารออกจากกระเพาะ (Gastric Emptying Delay): Semaglutide ทำให้การเคลื่อนย้ายอาหารจากกระเพาะไปยังลำไส้ช้าลง ซึ่งทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นและช่วยลดปริมาณอาหารที่รับประทานเข้าไป ส่งผลให้สามารถลดน้ำหนักได้
-กระตุ้นความอิ่ม (Appetite Suppression): Semaglutide ส่งผลต่อสมองโดยตรง โดยไปกระตุ้นศูนย์ควบคุมความอิ่ม ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและลดความอยากอาหาร
-ลดการเพิ่มขึ้นของน้ำตาลหลังอาหาร: การทำงานที่เกี่ยวกับการชะลอการลำเลียงอาหารและกระตุ้นการหลั่งอินซูลินช่วยลดการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากมื้ออาหาร ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลได้ดียิ่งขึ้น
Side Effect ผลข้างเคียง (Semaglutide) Glucagon-like peptide-1 receptor agonists มีอะไรบ้าง?
คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย: พบบ่อยในช่วงเริ่มต้นการใช้ยา
ปวดท้องหรือท้องอืด: อาจเกิดความรู้สึกแน่นท้องหรือปวดท้องเล็กน้อย
ตับอ่อนอักเสบ: พบได้น้อย แต่มีความเสี่ยงปวดท้องรุนแรงจากภาวะนี้
ปัญหาไต: การขาดน้ำจากอาการท้องเสียหรืออาเจียนอาจทำให้ไตมีปัญหา
Hypoglycemia: อาจเกิดภาวะน้ำตาลต่ำเมื่อใช้ร่วมกับยาลดน้ำตาลอื่นๆ
ปริมาณการใช้ (Semaglutide) Glucagon-like peptide-1 receptor agonists ควรใช้เท่าไหร่?
สำหรับการรักษาโรคเบาหวานประเภทที่ 2:
-ปริมาณเริ่มต้น: 0.25 มก. ฉีดใต้ผิวหนังสัปดาห์ละครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์
-ปริมาณปรับเพิ่ม: หลังจาก 4 สัปดาห์ สามารถเพิ่มปริมาณเป็น 0.5 มก. ต่อสัปดาห์
หากจำเป็น อาจเพิ่มปริมาณได้สูงสุดถึง 1 มก. ต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผู้ป่วยและการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
สำหรับการลดน้ำหนัก (ภาวะอ้วน):
-ปริมาณเริ่มต้น: 0.25 มก. ต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 4 สัปดาห์
-การเพิ่มปริมาณ: สามารถเพิ่มปริมาณได้ทุก 4 สัปดาห์ โดยเพิ่มทีละ 0.25 มก. ต่อสัปดาห์ จนถึงปริมาณสูงสุดที่ 2.4 มก. ต่อสัปดาห์
-หมายเหตุ: ปริมาณการใช้ Semaglutide อาจแตกต่างกันตามผู้ป่วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมและติดตามการใช้งานเพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง.
ราคา Semaglutide 2MG จะอยู่ประมาณ ฿2,500 – ฿3,000
ราคา Semaglutide 5MG จะอยู่ประมาณ ฿4,500 – ฿6,000