Letrozole (Femara) เป็นยาในกลุ่ม Non-Steroidal Aromatase Inhibitors (NSAI) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย โดยเฉพาะสำหรับการรักษามะเร็งเต้านมชนิดที่ไวต่อฮอร์โมน (Hormone-Receptor-Positive Breast Cancer) ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
Letrozole ถูกพัฒนาโดยบริษัท Novartis และได้รับการอนุมัติจาก FDA ในปี 1997 ใช้เป็นยาหลักในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น รวมถึงในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยา Tamoxifen ซึ่งเป็นตัวเลือกแรกในขณะนั้น
ยา Letrozole ทำงานโดยการยับยั้งเอนไซม์ Aromatase ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนฮอร์โมนแอนโดรเจน (Testosterone และ Androstenedione) ให้เป็นเอสโตรเจน การลดระดับเอสโตรเจนนี้ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งที่ต้องพึ่งพาเอสโตรเจน
นอกจากการใช้ในทางการแพทย์แล้ว Letrozole ยังได้รับความนิยมในวงการเพาะกายและการบำบัดฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone Replacement Therapy – TRT) โดยมีจุดเด่นที่สามารถลดเอสโตรเจนได้อย่างลึก (ลดได้มากถึง 98-99%) ทำให้ช่วยป้องกันอาการ Gynecomastia และการกักเก็บน้ำในผู้ที่ใช้ Anabolic-Androgenic Steroids (AAS)
สิ่งที่ควรจำแบบเบสิกๆเลยสำหรับ Exemestane
- Femara คือ “ชื่อทางการค้าที่คนส่วนใหญ่เรียก”
- Letrozole คือ “ชื่อตัวยา”
- Letrozole เป็น “Aromatase Inhibitor(AI)”
- Letrozole เป็น “Non-Steroidal Aromatase Inhibitor (NSAI)”
- Letrozole มี “Half life: 48 ชั่วโมง”
ฟังก์ชั่นเฉพาะตัวของ Letrozole(Femara) สามารถทำอะไรได้บ้าง?
ลดระดับเอสโตรเจนอย่างมีประสิทธิภาพ: Letrozole สามารถยับยั้งเอนไซม์ Aromatase ที่เปลี่ยนฮอร์โมนแอนโดรเจน (Testosterone, Androstenedione) เป็นเอสโตรเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดระดับเอสโตรเจนในร่างกายได้มากถึง 98-99%
ใช้รักษามะเร็งเต้านม: เหมาะสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีมะเร็งเต้านมชนิดไวต่อฮอร์โมน (Hormone-Receptor-Positive Breast Cancer) โดยการลดเอสโตรเจนช่วยชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็ง
ป้องกันผลข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้ชาย: ในวงการเพาะกาย Letrozole ใช้ควบคุมระดับเอสโตรเจนในผู้ใช้ AAS (Anabolic-Androgenic Steroids) เพื่อลดอาการ Gynecomastia (เต้านมโต), การกักเก็บน้ำ, และการเพิ่มไขมันส่วนเกิน
เพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน: การลดระดับเอสโตรเจนช่วยกระตุ้นการผลิต Luteinizing Hormone (LH) และ Follicle-Stimulating Hormone (FSH) ส่งผลให้การผลิต Testosterone เพิ่มขึ้น
ลดความเสี่ยงของ Rebound Effect: เมื่อใช้ Letrozole ระดับเอสโตรเจนในร่างกายจะถูกควบคุมในระดับต่ำ จึงลดความเสี่ยงการเพิ่มเอสโตรเจนเกินปกติหลังหยุดใช้
Femara (Letrozole) จัดอยู่ในกลุ่ม Non-Steroidal Aromatase Inhibitor (NSAI)
Femara หลังเลิกใช้แล้วจะเกิด Rebound Effect หมายความว่ายังไง?
เราจะป้องกัน Rebound Effect หลังจากการเลิกใช้ Femara ได้อย่างไร?
Side Effect ผลข้างเคียง Letrozole (Femara) มีอะไรบ้าง?
ระดับเอสโตรเจนต่ำเกินไป (Estrogen Deficiency):
- กระดูกพรุน (Osteoporosis) และกระดูกเปราะ
- ปวดข้อและกล้ามเนื้อ (Arthralgia, Myalgia)
- อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า (Mood Swings, Depression)
- ความใคร่ลดลง (Low Libido)
- ผิวแห้งและอ่อนเพลีย
ผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ:
- ลดระดับ HDL (ไขมันดี) เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ
- อาจเพิ่มความดันโลหิต
อาการทั่วไป:
- ปวดศีรษะ (Headache)
- คลื่นไส้ อาเจียน (Nausea, Vomiting)
- อาการร้อนวูบวาบ (Hot Flashes)
- เหนื่อยล้า (Fatigue)
ผลข้างเคียงเฉพาะในเพศหญิง:
- อาการวัยทอง เช่น เหงื่อออกตอนกลางคืน
- ผมร่วงบางส่วน
ผลกระทบในเพศชาย (เมื่อใช้ร่วมกับ AAS):
- ข้อต่อแห้งและลดความยืดหยุ่น
- ลดน้ำในกล้ามเนื้อ ส่งผลต่อขนาดและความแข็งแรงของกล้าม
จุดประสงค์ในการใช้ ปริมาณในการใช้ Letrozole (Femara) ?
ราคา Femara 2.5MG จะอยู่ประมาณ ฿1,200 – ฿1,500