Tirzepatide เป็นยาตัวใหม่ที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และมีศักยภาพในการใช้ลดน้ำหนักในผู้ที่มีภาวะอ้วน Tirzepatide เป็นยาประเภท dual agonist ซึ่งทำงานโดยเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่ GLP-1 (Glucagon-like peptide-1) และ GIP (Glucose-dependent insulinotropic polypeptide) ทั้งสองฮอร์โมนนี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหลังการรับประทานอาหาร และส่งเสริมการลดน้ำหนัก
Tirzepatide ถูกพัฒนาโดย Eli Lilly และได้รับการอนุมัติจาก FDA ในปี 2022 ภายใต้ชื่อการค้า Mounjaro สำหรับการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2
หลักการทำงานของ Tirzepatide สามารถทำอะไรได้บ้าง?
Tirzepatide มีหลักการทำงานที่ซับซ้อน โดยออกฤทธิ์ผ่านการเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมน GLP-1 และ GIP ทำให้มีผลหลายประการต่อระบบควบคุมน้ำตาลและกระบวนการเมตาบอลิซึมในร่างกาย ดังนี้:
- การกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน: Tirzepatide จะช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อนเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง อินซูลินมีหน้าที่ในการช่วยให้ร่างกายนำกลูโคสไปใช้เป็นพลังงานและลดระดับน้ำตาลในเลือด
- การลดการหลั่งกลูคากอน: กลูคากอนเป็นฮอร์โมนที่ส่งสัญญาณให้ตับผลิตกลูโคสเมื่อระดับน้ำตาลต่ำ Tirzepatide ช่วยลดการหลั่งกลูคากอน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
- การชะลอการย่อยอาหาร: เช่นเดียวกับ GLP-1, Tirzepatide จะชะลอการเคลื่อนที่ของอาหารในกระเพาะ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกอิ่มนานขึ้น และลดความอยากอาหาร
- การกระตุ้นการเผาผลาญ: Tirzepatide ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ซึ่งส่งผลในการลดน้ำหนักในระยะยาว
ในแง่ของประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก พบว่าผู้ที่ใช้ Tirzepatide สามารถลดน้ำหนักได้มากกว่ายาในกลุ่ม GLP-1 เพียงอย่างเดียว เช่น Semaglutide ทำให้ Tirzepatide ถูกพิจารณาว่าเป็นยาเสริมที่มีศักยภาพสูงในกลุ่มยาลดน้ำหนักใหม่ๆ
Side Effect ผลข้างเคียง Tirzepatide มีอะไรบ้าง?
แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพสูง Tirzepatide ก็มีผลข้างเคียงที่พบบ่อยและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น:
- ผลกระทบทางระบบย่อยอาหาร: อาการที่พบได้บ่อยคือ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และท้องผูก ซึ่งเกิดจากการชะลอการเคลื่อนที่ของอาหารในกระเพาะ
- อาการท้องอืดและปวดท้อง: อาจมีอาการท้องอืดหรือปวดท้องในบางราย โดยเฉพาะในช่วงแรกของการใช้ยา
- ความเสี่ยงต่อโรคตับอ่อนอักเสบ: เช่นเดียวกับยาในกลุ่ม GLP-1, Tirzepatide อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคตับอ่อนอักเสบ
- ผลกระทบต่อไต: อาจเกิดผลกระทบต่อการทำงานของไต โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตอยู่แล้ว
- อาการแพ้: อาจเกิดผื่นคันหรืออาการบวมบริเวณที่ฉีดยาในบางราย
ปริมาณการใช้ Tirzepatide ควรใช้เท่าไหร่?
ปริมาณการใช้ Tirzepatide ที่แนะนำจะแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์การรักษาและสภาพร่างกายของผู้ป่วย แต่โดยทั่วไป การใช้สำหรับการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เริ่มต้นที่:
- ปริมาณเริ่มต้น: 2.5 มิลลิกรัม ฉีดสัปดาห์ละครั้ง เพื่อช่วยให้ร่างกายคุ้นเคยกับยา
- การเพิ่มขนาด: หลังจาก 4 สัปดาห์ อาจเพิ่มปริมาณเป็น 5 มิลลิกรัมต่อสัปดาห์ และสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 15 มิลลิกรัมต่อสัปดาห์ หากจำเป็น โดยขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อการรักษา
สำหรับการลดน้ำหนัก Tirzepatide กำลังอยู่ในการทดลองและอาจมีการปรับปริมาณขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผู้ใช้ยา
สรุป Tirzepatide เป็นยาที่มีศักยภาพสูงในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมน GLP-1 และ GIP ยานี้มีผลข้างเคียงที่พึงระวัง โดยเฉพาะในเรื่องระบบย่อยอาหารและความเสี่ยงต่อโรคตับอ่อนอักเสบ