ความเสียหายต่อตับน่าจะเป็นผลข้างเคียงที่ถูกขยายเกินจริงมากที่สุดของสเตียรอยด์ สื่อมักจะมุ่งเน้นไปที่ปัญหานี้ราวกับว่ามันเกิดขึ้นกับสเตียรอยด์ทุกชนิดและทุกคนที่ใช้ สเตียรอยด์แอนาโบลิกส่วนใหญ่ที่รับประทานผ่านทางปากจะผ่านตับ ซึ่งทำหน้าที่เป็นระบบกรองของร่างกาย เมื่อสิ่งใดก็ตามผ่านตับ มันจะถูกย่อยสลายโดยเอนไซม์ต่าง ๆ ก่อนที่จะส่งผ่านเข้าสู่กระแสเลือด การวิจัยส่วนใหญ่เกี่ยวกับการใช้สเตียรอยด์แอนาโบลิกทางปากมักมุ่งเน้นไปที่การที่เอนไซม์ตับเพิ่มขึ้นหลังจากการรับประทาน แต่การที่เอนไซม์ตับเพิ่มขึ้นหมายความว่าตับได้รับความเสียหายจริงหรือ? แน่นอนว่าไม่ใช่ งานวิจัยที่มุ่งเน้นไปที่ความเป็นพิษของสเตียรอยด์มักจะใช้ขนาดที่มากเกินไป หรือมุ่งเน้นไปที่การทำงานของตับแทนที่จะเป็นความเสียหาย ตับทำหน้าที่เป็นตัวกรองของร่างกายมนุษย์ มันจะถูกกระตุ้นเสมอเมื่อมีบางสิ่ง (ไม่ใช่แค่สเตียรอยด์) ผ่านเข้ามา ซึ่งไม่ได้หมายความว่าสเตียรอยด์ทำลายตับใช่ไหม? ลองมาดูว่านักวิทยาศาสตร์พูดว่าอย่างไร
มีการศึกษาในปี 1999 ที่ศึกษาผลกระทบของรอบการใช้สเตียรอยด์ทางปากเป็นเวลา 8 สัปดาห์ สเตียรอยด์ที่ถูกศึกษาได้แก่ Halotestin (Fluoxymesterone), Dianabol (methylandrostanolone), หรือ Winstrol (Stanozolol) ในปริมาณ 2 มก./กก. ของน้ำหนักตัว ซึ่งให้ 5 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลา 8 สัปดาห์ นั่นคือเกือบ 200 มก./วัน สำหรับผู้ใช้ที่มีน้ำหนัก 200 ปอนด์ ซึ่งมากกว่าปริมาณที่คนส่วนใหญ่ใช้ในรอบปกติทั่วไป ในความเป็นจริง ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยในช่วงที่ทำวิจัยเกี่ยวกับสเตียรอยด์และพูดคุยกับนักกีฬา ว่าใครจะใช้ Halotestin, Winstrol หรือ Dianabol ถึง 200 มก./วัน เมื่อสิ้นสุดการศึกษา ในร่างกาย (in vivo) หนูทดลองแต่ละตัวมีระดับเอนไซม์ตับที่ยังคงอยู่ในช่วงปกติ! (*Med Sci Sports Exerc. 1999 Feb;31(2):243-50, Rat liver lysosomal and mitochondrial activities are modified by anabolic-androgenic steroids. Molano F, Saborido A, Delgado J, Moran M, Megias A.)
ในอีกการศึกษาหนึ่ง นักเพาะกาย 16 คน ใช้สเตียรอยด์ถูกเปรียบเทียบกับนักเพาะกาย 12 คนที่ไม่ได้ใช้ จากนั้นนักเพาะกายที่เคยใช้สเตียรอยด์หยุดใช้เป็นเวลา 3 เดือน นักวิจัยพบว่าเอนไซม์ตับกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับกลุ่มที่ไม่ได้ใช้หลังจากเพียง 3 เดือน! (*Int J Sports Med 1996 Aug;17(6):429-33, Body composition, cardiovascular risk factors and liver function in long-term androgenic-anabolic steroids using bodybuilders three months after drug withdrawal. Hartgens F, Kuipers H, Wijnen JA, Keizer HA.)
เราจะเห็นได้จากแผนภูมิด้านล่างว่าอดีตผู้ใช้สเตียรอยด์มีระดับเอนไซม์ตับที่ปกติทั้งหมดหลังจากหยุดใช้เป็นเวลา 1 ปี ในความเป็นจริง สำหรับเอนไซม์ตับบางตัว แม้แต่ผู้ใช้ปัจจุบันก็ยังมีคะแนนที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ!
(*Journal of Steroid Biochemistry and Molecular Biology. 84 (2003) 369-375)
เราจะแก้ Steroid Side Effect Liver Damage(เป็นพิษต่อตับ) ได้อย่างไร? การแก้ปัญหาความเสียหายต่อตับจากการใช้ anabolic steroids สามารถทำได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้:
….
