ต่อมาจะบอกว่าแต่ละกลุ่มทำงานแบบไหนบ้าง
Anabolic Androgenic Steroids (AAS) แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักๆ
ตามโครงสร้างเคมี ได้แก่ Testosterone derivatives, Dihydrotestosterone (DHT) derivatives, และ 19-nortestosterone (19-nor) derivatives แต่ละกลุ่มมีหน้าที่หลักสำหรับการเพาะกาย ดังนี้:
- Testosterone Derivatives
หน้าที่หลัก: เสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงโดยตรง, เพิ่มการสังเคราะห์โปรตีน, ช่วยฟื้นฟูจากการออกกำลังกายอย่างหนัก, เพิ่มการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงเพื่อเพิ่มออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อ
จุดเด่น: มีทั้งคุณสมบัติ anabolic (เสริมสร้างกล้ามเนื้อ) และ androgenic (ลักษณะทางเพศชาย) - Dihydrotestosterone (DHT) Derivatives
หน้าที่หลัก: เพิ่มความแข็งแรงและความหนาแน่นของกล้ามเนื้อ, ช่วยลดไขมันในร่างกาย, ไม่เปลี่ยนเป็นเอสโตรเจน (ไม่มีผลข้างเคียงจากเอสโตรเจน เช่น การบวมน้ำ)
จุดเด่น: เพิ่มความชัดเจนของกล้ามเนื้อ (muscle definition) โดยเฉพาะในช่วงการลดไขมัน - 19-Nortestosterone (19-nor) Derivatives
หน้าที่หลัก: เพิ่มมวลกล้ามเนื้ออย่างมาก (mass building), ช่วยรักษากล้ามเนื้อในช่วงการลดน้ำหนัก, มีคุณสมบัติ anabolic สูงมากเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น
จุดเด่น: สร้างมวลกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว แต่มีผลข้างเคียงเช่นการกักเก็บน้ำหรือเกิด gynecomastia (หน้าอกขยายในผู้ชาย)
กลุ่ม HGH (Human Growth Hormone) และ Peptides
มีหน้าที่หลักในการช่วยในการพัฒนารูปร่างและประสิทธิภาพในการเพาะกายดังนี้:
- HGH (Human Growth Hormone)
หน้าที่หลัก: เพิ่มการสังเคราะห์โปรตีน ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่เสียหาย
กระตุ้นการสลายไขมันในร่างกาย ทำให้ลดไขมันสะสมและเพิ่มความชัดเจนของกล้ามเนื้อ
เพิ่มการสร้างเซลล์ใหม่และซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ช่วยฟื้นฟูร่างกายและเสริมการฟื้นตัวหลังการออกกำลังกาย
ช่วยพัฒนาการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและการนอนหลับ ทำให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ประโยชน์: เหมาะสำหรับนักเพาะกายที่ต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ควบคู่กับการลดไขมันเพื่อให้กล้ามเนื้อชัดเจนและดูคมชัดยิ่งขึ้น - Peptides (GHRP, CJC-1295, Ipamorelin, IGF-1 เป็นต้น)
หน้าที่หลัก: กระตุ้นการหลั่ง GH (Growth Hormone): ช่วยเพิ่มระดับ HGH ในร่างกายโดยไม่ต้องใช้ฮอร์โมน HGH โดยตรง เช่น GHRP-6, CJC-1295, Ipamorelin
เพิ่มการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ: เช่น IGF-1 (Insulin-like Growth Factor) ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อใหม่ เสริมการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
ช่วยฟื้นฟูและรักษาเนื้อเยื่อ: Peptides บางชนิด เช่น BPC-157 และ TB-500 ช่วยรักษาและฟื้นฟูการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและเอ็น
ลดไขมันในร่างกาย: บางเปปไทด์ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน เช่น HGH Frag 176-191
Insulin ในวงการเพาะกายมีหน้าที่หลัก ๆ ดังนี้:
กระตุ้นการสร้างไกลโคเจน : Insulin ช่วยนำกลูโคสเข้าสู่กล้ามเนื้อและตับเพื่อสร้างไกลโคเจน ซึ่งใช้เป็นพลังงานในการฝึกและช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็วขึ้น
ส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีน : Insulin ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างโปรตีนในกล้ามเนื้อ ทำให้เพิ่มมวลกล้ามเนื้อและลดการสลายโปรตีน
เพิ่มการดูดซึมสารอาหาร : Insulin เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรตและกรดอะมิโนเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโต
ลดการสลายกล้ามเนื้อ (Anti-Catabolic) : Insulin ช่วยลดการสลายของโปรตีนในกล้ามเนื้อ ทำให้รักษามวลกล้ามเนื้อในช่วงที่ร่างกายมีความต้องการพลังงานสูง
Ancillary Compounds Drugs หรือยาเสริมที่ใช้ในวงการเพาะกาย
มีหน้าที่หลักในการช่วยควบคุมผลข้างเคียงและสนับสนุนผลของการใช้สาร Anabolic Androgenic Steroids (AAS) หรือสารอื่น ๆ โดยมีหน้าที่หลักดังนี้:
- Aromatase Inhibitors (AIs)
หน้าที่หลัก: ยับยั้งการเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็นเอสโตรเจน ซึ่งช่วยลดผลข้างเคียงจากการเกิดเอสโตรเจนสูง เช่น gynecomastia (หน้าอกขยายในผู้ชาย) และการกักเก็บน้ำ - Selective Estrogen Receptor Modulators (SERMs)
หน้าที่หลัก: บล็อกการทำงานของเอสโตรเจนในบางส่วนของร่างกาย เช่น เต้านม โดยไม่ลดระดับเอสโตรเจนทั้งหมด ใช้เพื่อป้องกันและรักษา gynecomastia ที่เกิดจากการใช้ AAS - Human Chorionic Gonadotropin (HCG)
หน้าที่หลัก: กระตุ้นการทำงานของอัณฑะในการผลิตเทสโทสเตอโรนและสเปิร์ม ช่วยฟื้นฟูการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติหลังการใช้ AAS - Prolactin Inhibitors
หน้าที่หลัก: ควบคุมระดับฮอร์โมนโปรแลคติน ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นจากการใช้สารกลุ่ม 19-nor เช่น Trenbolone และ Nandrolone หากระดับโปรแลคตินสูงเกินไปอาจทำให้เกิด gynecomastia หรือความผิดปกติทางเพศ - Liver Protectants (Hepatoprotective Agents)
หน้าที่หลัก: ปกป้องตับจากความเสียหายที่เกิดจากการใช้สารสเตียรอยด์ที่มีพิษต่อตับ เช่น anabolic steroids ที่รับประทานในรูปแบบเม็ด (เช่น Dianabol, Winstrol) - Cholesterol Management Drugs
หน้าที่หลัก: ป้องกันหรือรักษาระดับคอเลสเตอรอลสูงที่เกิดจากการใช้ AAS ซึ่งอาจเพิ่ม LDL (ไขมันเลว) และลด HDL (ไขมันดี) จนอาจนำไปสู่ปัญหาหัวใจและหลอดเลือด
Selective Androgen Receptor Modulators (SARMs) เป็นสารที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงกับตัวรับแอนโดรเจนในกล้ามเนื้อและกระดูก โดยมีหน้าที่หลัก ๆ สำหรับการเพาะกายดังนี้:
- เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
SARMs กระตุ้นตัวรับแอนโดรเจนในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง โดยไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่ออื่น ๆ ที่ไม่ต้องการ เช่น ต่อมลูกหมาก หรือผิวหนัง - การรักษามวลกระดูกและเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก
SARMs บางชนิดมีคุณสมบัติในการเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและลดการสูญเสียมวลกระดูก ซึ่งช่วยป้องกันการบาดเจ็บในนักเพาะกาย - ช่วยรักษากล้ามเนื้อในช่วงการลดไขมัน
SARMs ช่วยป้องกันการสลายของมวลกล้ามเนื้อในขณะที่ลดไขมัน ซึ่งเป็นประโยชน์ในการคงมวลกล้ามเนื้อในช่วงการเตรียมตัวเพื่อการแข่งขัน - การเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมัน
SARMs บางชนิดสามารถช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญและลดไขมันในร่างกายได้ โดยเฉพาะในบริเวณที่ไขมันลดยาก - ฟื้นฟูและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
SARMs ช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังการฝึกหนัก ช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย
Diuretics ในวงการเพาะกายมีหน้าที่หลักๆ
ขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย : Diuretics ช่วยลดการกักเก็บน้ำในร่างกาย ทำให้กล้ามเนื้อดูคมชัดและแห้งมากขึ้น เหมาะสำหรับการเตรียมตัวก่อนการแข่งขัน
ลดอาการบวมน้ำ : ช่วยกำจัดน้ำที่สะสมในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้กล้ามเนื้อมีความคมชัดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่ไขมันลดได้ยาก
ช่วยควบคุมความดันโลหิต : ในบางกรณี Diuretics ถูกใช้เพื่อควบคุมความดันโลหิตในนักเพาะกายที่ใช้สารกระตุ้นอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้ความดันโลหิตสูง