Anabolic-th

เป็นเว็บให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ฮอร์โมนสำหรับนักเพาะกาย และสำหรับคนทั่วๆไปที่ออกกำลังกาย แต่อยากมีหุ่นที่ดีกว่าคนปกติทั่วๆไป

รู้จัก Performance Enhancing Drugs(PEDs) 05 “กลุ่มยา(AAS) 19-nortestosterone derivatives(19-nor)”

The Anabolic Steroid Family Tree

กลุ่ม 19-nortestosterone derivatives(19-nor) กลุ่มนี้จะประกอบไปด้วย
แบบ Injection(ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ)

  • Deca, Npp ชื่อตัวยา Nandrolone
  • Tren ชื่อตัวยา Trenbolone
  • Ment ชื่อตัวยา Tretolone

เมื่อ 19-nortestosterone derivatives (19-nor) เข้าสู่ร่างกาย การกระจายและการทำงานจะมีลักษณะคล้ายกับสเตียรอยด์กลุ่มอื่น แต่มีคุณสมบัติที่แตกต่างในแง่ของการลดการจับกับ SHBG (Sex Hormone-Binding Globulin) ซึ่งมีผลสำคัญต่อปริมาณของฮอร์โมนอิสระในกระแสเลือด

การแบ่งของ 19-nor derivatives เมื่อเข้าสู่ร่างกาย:

รูปแบบ Free (อิสระ): ประมาณ 1-2% ของฮอร์โมนจะอยู่ในรูปแบบ Free ที่ไม่จับกับโปรตีน ซึ่งสามารถเข้าสู่เซลล์ได้ทันทีเพื่อจับกับ androgen receptors ในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อและกระตุ้นกระบวนการ anabolic (การสังเคราะห์โปรตีน) ได้โดยตรง

จับกับโปรตีน SHBG: ประมาณ 60-70% ของฮอร์โมนจะจับกับ SHBG ซึ่งเป็นโปรตีนที่ลดปริมาณฮอร์โมนที่ใช้งานได้ โดยการจับกับ SHBG ทำให้ฮอร์โมนเหล่านี้ไม่สามารถเข้าสู่เซลล์และทำงานได้ทันที

จับกับโปรตีน Albumin: ประมาณ 30-40% ของฮอร์โมนจะจับกับ Albumin ซึ่งเป็นการจับที่ไม่แน่นหนามาก ทำให้สามารถปล่อยฮอร์โมนออกมาใช้งานได้ง่ายขึ้นเมื่อร่างกายต้องการ

19-nortestosterone derivatives (เช่น Nandrolone และ Trenbolone) จะมีการเปลี่ยนแปลงในร่างกายที่ทำให้เกิดสารอนุพันธ์สำคัญที่เรียกว่า DHN (Dihydronandrolone) และมีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มระดับของ prolactin ซึ่งส่งผลต่อการใช้งานและผลข้างเคียงของสารเหล่านี้

1. DHN (Dihydronandrolone):
Nandrolone เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะถูกเอนไซม์ 5-alpha reductase เปลี่ยนเป็น DHN (Dihydronandrolone) ซึ่งแตกต่างจาก Testosterone ที่เปลี่ยนเป็น DHT (Dihydrotestosterone) DHN มีฤทธิ์ androgenic น้อยกว่า DHT มาก ทำให้ผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับ androgenic (เช่น ผมร่วงหรือสิว) ลดลง นี่คือเหตุผลที่ Nandrolone มีผลข้างเคียงที่น้อยกว่า Testosterone ในแง่ของผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับแอนโดรเจน

2. Prolactin และ 19-nortestosterone:
สเตียรอยด์ในกลุ่ม 19-nortestosterone เช่น Nandrolone และ Trenbolone มีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มระดับ prolactin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า

Prolactin เป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทในเรื่องการผลิตน้ำนมในสตรีหลังคลอด แต่เมื่อระดับ prolactin สูงเกินไปในผู้ชาย มันสามารถส่งผลให้เกิดภาวะ gynecomastia (เต้านมโต) หรือปัญหาทางเพศ เช่น การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
สาเหตุที่ 19-nortestosterone เพิ่มระดับ prolactin นั้นยังไม่แน่ชัด แต่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการยับยั้งตัวรับ dopamine ซึ่งปกติจะทำหน้าที่ควบคุมการปล่อย prolactin ดังนั้นการใช้สารในกลุ่มนี้อาจทำให้ระดับ prolactin เพิ่มขึ้น

การจัดการผลกระทบของ prolactin:

เพื่อจัดการกับระดับ prolactin ที่สูงเกินไป ผู้ใช้สเตียรอยด์กลุ่ม 19-nortestosterone มักจะใช้ยาที่เรียกว่า caberlogine หรือ bromocriptine ซึ่งช่วยลดการปล่อย prolactin โดยการเพิ่มการทำงานของ dopamine

สเตียรอยด์ในกลุ่ม 19-nortestosterone ที่ลดการจับกับ SHBG ได้ดี แต่ไม่เท่ากับกลุ่ม DHT-derivative

Nandrolone เป็นหนึ่งใน 19-nor ที่ได้รับความนิยมมากและมีความสามารถในการ ลดการจับกับ SHBG ได้ค่อนข้างดี
ผลที่เกิดขึ้น: การลดการจับกับ SHBG ช่วยเพิ่มระดับ ฮอร์โมนอิสระ ที่ร่างกายสามารถนำไปใช้งานได้มากขึ้น ส่งผลให้กระบวนการ anabolic ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

Trenbolone ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของ Nandrolone มีความสามารถในการ ลดการจับกับ SHBG ได้ดีมากเช่นกัน
ผลที่เกิดขึ้น: ทำให้ระดับฮอร์โมนอิสระเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ Trenbolone เป็นสเตียรอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและลดไขมัน

NPP มีผลในการลดการจับกับ SHBG แต่ไม่เด่นชัดเท่ากับ Trenbolone หรือ Nandrolone decanoate
บทบาทสำคัญ: ถึงแม้ NPP จะไม่ลดการจับกับ SHBG ได้มากเท่า Trenbolone แต่ก็ยังสามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่มีการสะสมน้ำมากเกินไป

สรุป:

Nandrolone และ Trenbolone มีความสามารถในการ ลดการจับกับ SHBG ได้ดี แต่ไม่เท่ากับกลุ่ม DHT-derivative มันทำให้ฮอร์โมนอิสระในร่างกายมีมากขึ้น ส่งผลให้กระบวนการ anabolic มีประสิทธิภาพในการสร้างมวลกล้ามเนื้อและลดไขมัน
สเตียรอยด์ในกลุ่ม 19-nor อื่นๆ เช่น NPP มีผลในการลดการจับกับ SHBG ได้น้อยกว่า แต่ยังคงมีประสิทธิภาพในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและลดการสะสมน้ำ

Loading