Clomiphene หรือ Clomid คืออะไร?

โดยบริษัท Merrell Company (ภายหลังรวมกับ Dow Chemical) โดยเดิมทีพัฒนาเพื่อรักษาความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ต่อมาในปี 1967 ยานี้ได้รับการอนุมัติจาก FDA ให้ใช้รักษาภาวะมีบุตรยากในผู้หญิง

Clomiphene ทำงานโดยการจับกับตัวรับเอสโตรเจนในสมอง (Hypothalamus) ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้สมอง “รับรู้” ถึงระดับเอสโตรเจนในร่างกาย วิธีนี้ช่วยกระตุ้นการหลั่ง Gonadotropins ได้แก่ Luteinizing Hormone (LH) และ Follicle-Stimulating Hormone (FSH) จากต่อมใต้สมอง ซึ่งช่วยกระตุ้นการตกไข่ในผู้หญิงที่มีปัญหาภาวะไม่ตกไข่

ในเพศชาย Clomiphene ถูกนำมาใช้ในการรักษาภาวะ Hypogonadism (Testosterone ต่ำ) โดยการกระตุ้นการผลิต Testosterone ตามธรรมชาติผ่านการเพิ่ม LH และ FSH

นอกจากนี้ Clomiphene ยังเป็นที่นิยมในวงการเพาะกาย โดยใช้เป็นส่วนหนึ่งของ Post Cycle Therapy (PCT) หลังจากการใช้ Anabolic-Androgenic Steroids (AAS) เพื่อช่วยฟื้นฟูระดับฮอร์โมนเพศชายตามธรรมชาติและป้องกันผลข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูง

สิ่งที่ควรจำแบบเบสิกๆเลยสำหรับ Clomiphene (Clomid)

Clomid คือ “ชื่อทางการค้าที่คนส่วนใหญ่เรียก”

Clomiphene คือ “ชื่อตัวยา”

Clomiphene เป็น “Modulator Estive Receptor Modulator(SERM)”

Clomiphene “ไม่ใช่สเตียรอยด์ “

Clomiphene มี ” Ester ที่มี Half life: 5 วัน”

ฟังก์ชั่นเฉพาะตัวของ Clomiphene (Clomid) สามารถทำอะไรได้บ้าง?

กระตุ้นการตกไข่ในผู้หญิง (Ovulation Induction):
Clomiphene จับตัวรับเอสโตรเจนในสมอง (Hypothalamus) ทำให้สมอง “เข้าใจผิด” ว่าเอสโตรเจนในร่างกายต่ำ จึงกระตุ้นการหลั่ง Luteinizing Hormone (LH) และ Follicle-Stimulating Hormone (FSH) จากต่อมใต้สมอง ซึ่งช่วยกระตุ้นการตกไข่ในผู้หญิงที่มีปัญหาภาวะไม่ตกไข่

เพิ่มการผลิตฮอร์โมนเพศชายในผู้ชาย:
Clomiphene กระตุ้นการผลิต LH และ FSH ในผู้ชาย ส่งผลให้ Testosterone เพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะ Hypogonadism (Testosterone ต่ำ)

ใช้ในการฟื้นฟูสมดุลฮอร์โมนหลังการใช้ AAS (Post Cycle Therapy – PCT):
ในวงการเพาะกาย Clomiphene ถูกใช้เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของระบบ Hypothalamic-Pituitary-Gonadal Axis (HPTA) หลังจากการใช้ Anabolic-Androgenic Steroids (AAS) ซึ่งกดการผลิต Testosterone ตามธรรมชาติ

ลดผลกระทบจากเอสโตรเจน:
Clomiphene ทำหน้าที่ต้านการทำงานของเอสโตรเจนในเนื้อเยื่อบางส่วน เช่น ต่อมใต้สมอง ช่วยป้องกันผลข้างเคียง เช่น Gynecomastia (เต้านมโตในผู้ชาย)

รักษาภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย:
ใช้ในผู้ชายที่มีภาวะอสุจิน้อย (Oligospermia) เพื่อเพิ่มจำนวนอสุจิผ่านการกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง

Side Effect ผลข้างเคียง Clomiphene (Clomid) มีอะไรบ้าง?