Mast P, Masteron P หรือ Drostanolone Propionate Profile

[Administrator]

Mast P, Masteron P หรือ Drostanolone Propionate คืออะไร ?


Mast P, Masteron P หรือ Drostanolone Propionate เป็นสารสเตียรอยด์ที่มีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรงและขนาดของกล้ามเนื้อ โดยมีชื่อการค้าที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่า Masteron สารนี้ถูกนำมาใช้ในการรักษาบางอาการในผู้หญิงและยังได้รับความนิยมในหมู่นักกีฬาและนักเพาะกายเพื่อปรับปรุงสมรรถภาพและรูปลักษณ์ของกล้ามเนื้อ Drostanolone Propionate มีลักษณะเด่นที่ฤทธิ์แอนโดรเจนิกสูงและฤทธิ์แอนาโบลิกที่ปานกลาง ซึ่งช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเน้นลักษณะเพศชายโดยมีผลข้างเคียงน้อยกว่าสารสเตียรอยด์แอนโดรเจนิกอื่นๆ

สิ่งที่ควรจำแบบเบสิกๆเลยสำหรับ Masteron(Drostanolone)
- Mast P, Masteron P คือ "ชื่อทางการค้าที่คนส่วนใหญ่จดจำ"
- Drostanolone คือ "ชื่อตัวยา"
- Drostanolone เป็น "Non-Aromatize"
- Drostanolone เป็น "อนุพันธ์ของ Dihydrotestosterone"
- Drostanolone มีค่า "Anabolic/ Androgenic ratio: 65:25"
- Drostanolone มีค่า "Detection Time: ประมาณ 4-5 สัปดาห์"
- Propionate เป็น " Ester ที่มี Half-life: 1-2 วัน"

ฟังก์ชั่นเฉพาะตัวของ Mast P หรือ Drostanolone Propionate สามารถทำอะไรได้บ้าง?
Drostanolone Propionate (Mast P) มีลักษณะเฉพาะที่ทำให้มันโดดเด่นจากสารสเตียรอยด์แอนาโบลิก-แอนโดรเจนิก (AAS) ตัวอื่นๆได้แก่:
1. ไม่แปลงเป็นเอสโตรเจน: Drostanolone Propionate มีคุณสมบัติพิเศษที่ไม่มีการแปลงเป็นเอสโตรเจนในร่างกาย, ซึ่งหมายความว่ามันไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับเอสโตรเจน เช่น การเก็บน้ำ, ไขมันสะสม, หรือการพัฒนาลักษณะเพศหญิงในผู้ชาย (gynecomastia). นี่เป็นคุณสมบัติที่ไม่พบในหลายๆ AAS ที่มักจะแปลงเป็นเอสโตรเจนผ่านกระบวนการอะโรมาไทซ์.
2. มีผลต้านเอสโตรเจน: นอกจากจะไม่แปลงเป็นเอสโตรเจนแล้ว, Drostanolone Propionate ยังมีคุณสมบัติในการต่อต้านเอสโตรเจนในร่างกาย. ซึ่งหมายความว่ามันสามารถช่วยลดผลกระทบของเอสโตรเจนที่มีอยู่ในร่างกายได้, เช่น การลดความเสี่ยงของการเกิด gynecomastia และการช่วยให้ร่างกายมีลักษณะที่แห้งและแน่นขึ้น.
3. เพิ่มความแข็งแรงโดยไม่เพิ่มน้ำหนัก: หลายๆ AAS ช่วยเพิ่มขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่มักทำให้เกิดการเพิ่มน้ำหนักจากน้ำและไขมัน. Drostanolone Propionate ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความหนาแน่นของกล้ามเนื้อโดยไม่มีการเพิ่มน้ำหนักจากน้ำ, ทำให้เหมาะสำหรับนักกีฬาที่ต้องการปรับปรุงสมรรถภาพโดยไม่เปลี่ยนแปลงน้ำหนักหรือขนาด.
4. ประโยชน์ในช่วงตัดไขมัน: ด้วยคุณสมบัติในการไม่แปลงเป็นเอสโตรเจนและมีผลต้านเอสโตรเจน, Drostanolone Propionate เป็นที่นิยมในช่วงตัดไขมันหรือเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน เพราะช่วยให้ร่างกายรักษากล้ามเนื้อได้ดีขณะลดไขมัน, ทำให้ได้รูปลักษณ์ที่แห้งและแน่นของกล้ามเนื้อ.

Condition สภาพภายนอกที่คุณจะได้เมื่อใช้ Mast P หรือ Drostanolone Propionate
1. รูปลักษณ์กล้ามเนื้อที่แห้งและแน่นขึ้น: ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนคือกล้ามเนื้อที่มีลักษณะแห้งและแน่น, ด้วยการลดระดับไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้เส้นกล้ามเนื้อและรายละเอียดของกล้ามเนื้อเด่นชัดมากขึ้น
2. ความเด่นของเส้นเอ็นและหลอดเลือด: การลดไขมันในร่างกายและการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่งผลให้เส้นเอ็นและหลอดเลือดเด่นชัดมากขึ้น, ซึ่งเป็นสภาพที่นิยมในหมู่นักเพาะกายและนักกีฬาที่ต้องการโชว์รูปลักษณ์ของกล้ามเนื้อ
3. การลดน้ำหนักจากน้ำ: เนื่องจาก Drostanolone Propionate ไม่แปลงเป็นเอสโตรเจน, จึงไม่ทำให้เกิดการเก็บน้ำในร่างกาย ผลลัพธ์คือการลดน้ำหนักจากน้ำที่ช่วยให้รูปลักษณ์ภายนอกดูแห้งและแน่นขึ้น
4. ผิวหนังที่ดูกระชับ: การลดไขมันใต้ผิวหนังและการไม่มีการเก็บน้ำช่วยให้ผิวหนังดูกระชับและเนียนเรียบมากขึ้น, ซึ่งเป็นลักษณะที่ต้องการสำหรับการแสดงรูปลักษณ์ที่ดีที่สุด

Side Effect ผลข้างเคียง Mast P หรือ Drostanolone Propionate มีอะไรบ้างละ
ผลข้างเคียงของ Masteron ด้าน Androgenic
1.การเกิดสิว: การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนแอนโดรเจนสามารถกระตุ้นต่อมไขมันและเพิ่มการผลิตน้ำมันบนผิวหนัง ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดสิว.
2.การเพิ่มของขนบนร่างกายและใบหน้า: ผลข้างเคียงแอนโดรเจนิกอีกประการหนึ่งคือการเพิ่มการเจริญเติบโตของขนบนร่างกายและใบหน้า ซึ่งอาจเป็นผลไม่พึงประสงค์สำหรับบางคน.
3.การลดขนาดของเต้านมในผู้หญิง: ในผู้หญิงที่ใช้ Masteron, ฤทธิ์แอนโดรเจนิกสามารถนำไปสู่การลดขนาดของเต้านม.
4.การเพิ่มความเสี่ยงของหัวล้านแบบชายและผมร่วง: ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวล้านแบบชาย (male pattern baldness) อาจพบว่าการใช้ Masteron ทำให้ภาวะนี้เร่งขึ้น หรือผมร่วงมากขึ้น.
5.การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และพฤติกรรม: แม้จะไม่ใช่ผลข้างเคียงที่เห็นได้ชัดเจนทางกายภาพ แต่การเปลี่ยนแปลงในระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนสามารถส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรม ทำให้เกิดความหงุดหงิดง่ายหรือการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์.

ผลข้างเคียงของ Masteron ด้าน Estrogenic
Masteron (Drostanolone Propionate) มีคุณสมบัติพิเศษที่ไม่แปลงเป็นเอสโตรเจนในร่างกาย ซึ่งหมายความว่ามันไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงด้านเอสโตรเจนิกที่เห็นได้ชัดเจนในสารสเตียรอยด์แอนาโบลิก-แอนโดรเจนิก (AAS) อื่นๆ ดังนั้น, ผลข้างเคียงด้านเอสโตรเจนิก เช่น การเก็บน้ำ, ความดันโลหิตสูงจากการเก็บน้ำ, หรือการพัฒนาของเนื้อเยื่อเต้านมในผู้ชาย (gynecomastia) ไม่ควรเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่ใช้ Mastero

ผลข้างเคียงของ Masteron ด้าน Cardiovascular
1.การเปลี่ยนแปลงระดับคอเลสเตอรอล: Masteron สามารถเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล LDL (คอเลสเตอรอล "ไม่ดี") และลดระดับคอเลสเตอรอล HDL (คอเลสเตอรอล "ดี") ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง.
2.ความดันโลหิตสูง: การใช้สารสเตียรอยด์สามารถนำไปสู่การเพิ่มความดันโลหิต ซึ่งเพิ่มภาระให้กับหัวใจและหลอดเลือด.
3.โรคหัวใจ: การใช้ AAS ในระยะยาวหรือในขนาดสูงสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เช่น การหนาตัวของผนังหัวใจ (hypertrophic cardiomyopathy) ซึ่งอาจนำไปสู่การลดประสิทธิภาพของหัวใจในการสูบฉีดเลือด.

ผลข้างเคียงของ Masteron ด้าน Hepatotoxicity
Masteron (Drostanolone Propionate) เป็นหนึ่งในสารสเตียรอยด์แอนาโบลิก-แอนโดรเจนิก (AAS) ที่ไม่มีความเป็นพิษต่อตับ (non-hepatotoxic) ในระดับที่เห็นได้ชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับ AAS อื่นๆ ที่เป็นออรัล (oral) ซึ่งอาจมีผลพิษต่อตับได้. Masteron เป็นสารที่ให้ผ่านการฉีด (injectable) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีผลกระทบต่อตับน้อยกว่าสารที่รับประทานผ่านปาก.

ผลข้างเคียงด้านของ Masteron ด้าน Testosterone
1.การยับยั้งการผลิตเทสโทสเตอโรนธรรมชาติ: การใช้ Masteron สามารถยับยั้งแกน HPTA (Hypothalamic-Pituitary-Testicular Axis) ซึ่งเป็นระบบที่ควบคุมการผลิตเทสโทสเตอโรนในร่างกาย ผลลัพธ์คือการลดลงของการผลิตเทสโทสเตอโรนธรรมชาติ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเทสโทสเตอโรนต่ำหลังจากหยุดใช้สารสเตียรอยด์
2.ภาวะ Testicular Atrophy (การหดตัวของอัณฑะ): เนื่องจากการลดลงของการผลิตเทสโทสเตอโรนธรรมชาติ, อัณฑะอาจหดตัวเนื่องจากไม่มีการกระตุ้นให้ผลิตเทสโทสเตอโรน

ปริมาณการใช้ Mast P หรือ Drostanolone Propionate เป็นอย่างไร