การสะสมไขมันในร่างกายมากขึ้น (Increased Body Fat) เป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ anabolic steroids โดยเฉพาะในผู้ที่หยุดใช้สเตียรอยด์อย่างกะทันหัน หรือมีการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในระดับสูงร่วมด้วย ผลข้างเคียงนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในระบบเผาผลาญและการควบคุมฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้:
กลไกการเกิดการสะสมไขมันในร่างกายมากขึ้น
การลดลงของระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติ
เมื่อใช้ anabolic steroids ในระยะเวลานาน ร่างกายจะหยุดการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติ ทำให้เมื่อหยุดใช้สเตียรอยด์ ร่างกายจะขาดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้การเผาผลาญไขมันลดลง และเกิดการสะสมไขมันได้มากขึ้น
การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจน
การใช้สเตียรอยด์บางชนิดที่สามารถเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ เช่น Testosterone, Dianabol หรือ Anadrol ทำให้ระดับเอสโตรเจนในร่างกายสูงขึ้น ซึ่งเอสโตรเจนมีผลกระตุ้นการสะสมไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะในบริเวณสะโพก ต้นขา และหน้าท้อง
การเปลี่ยนแปลงของระบบเผาผลาญ (Metabolic Changes)
Anabolic steroids สามารถส่งผลให้ระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายเปลี่ยนแปลง ทำให้การสลายไขมันลดลงและการเก็บสะสมไขมันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้ร่วมกับอาหารที่มีแคลอรีสูง
การหยุดใช้สเตียรอยด์อย่างกะทันหันอาจทำให้ระบบเผาผลาญช้าลง ส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของระดับอินซูลิน (Insulin Sensitivity)
การใช้ anabolic steroids อาจส่งผลให้ระดับความไวของอินซูลินลดลง ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดแย่ลง ซึ่งสามารถนำไปสู่การสะสมไขมันในร่างกายมากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณหน้าท้อง
ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มการสะสมไขมัน
การใช้สเตียรอยด์ที่มีฤทธิ์แอนโดรเจนสูง: สเตียรอยด์บางชนิดเช่น Anadrol หรือ Testosterone มีแนวโน้มทำให้เกิดการสะสมไขมันมากกว่าสเตียรอยด์ชนิดอื่น
การบริโภคอาหารที่มีแคลอรีสูง: การใช้สเตียรอยด์ร่วมกับการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูงและไขมันสูงจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการสะสมไขมันในร่างกาย
การขาดการออกกำลังกาย: เมื่อใช้สเตียรอยด์โดยไม่มีการออกกำลังกายที่เพียงพอ ร่างกายจะสะสมไขมันได้มากขึ้น เนื่องจากพลังงานที่รับเข้ามาไม่ได้ถูกเผาผลาญออกไป
การป้องกันและจัดการผลข้างเคียง
การใช้สเตียรอยด์ในปริมาณที่เหมาะสมและระยะเวลาสั้น: ควรใช้ anabolic steroids ในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกินไป เพื่อลดความเสี่ยงของการสะสมไขมัน
การควบคุมอาหาร (Diet Control): เลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และควบคุมปริมาณแคลอรีไม่ให้เกินความต้องการของร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง เช่น อาหารแปรรูปและขนมหวาน
การออกกำลังกายสม่ำเสมอ (Regular Exercise): การออกกำลังกายทั้งแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่งจะช่วยเผาผลาญพลังงานและลดการสะสมไขมันในร่างกาย การออกกำลังกายสม่ำเสมอยังช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนและเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายได้ดีขึ้น
การปรับระดับฮอร์โมนหลังหยุดใช้สเตียรอยด์ (Post Cycle Therapy, PCT): การใช้ยาช่วยฟื้นฟูระดับฮอร์โมนเพศชายตามธรรมชาติหลังหยุดใช้สเตียรอยด์ เช่น Clomiphene Citrate (Clomid) หรือ Tamoxifen (Nolvadex) จะช่วยป้องกันการสะสมไขมันที่เกิดจากระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล